
ม้งอพยพมาอยู่ในประเทศลาวหลังเวียดนามเล็กน้อย ราวปี ค.ศ. 1810 – 1820 ม้งและเย้าร่วมมือกันมาศัยอยู่ทางตอนเหนือของประเทศลาว ช่วงแรกที่ม้งเข้ามานั้นได้ทำสงครามกับกลุ่มขมุที่อาศัยอยู่บนดอยด้วยเช่นกัน แต่ขมุก็ไม่สามารถาที่เอาชนะม้งได้ และม้งก็ได้ทำสงครามกับฝรั่งเศสด้วย เพราะไม่พอใจที่ฝรั่งเศสเก็บภาษีแพงมาก แต่ในที่สุดก็สามารถที่ตกลงกันได้ แต่อย่างไรก็ตามการสงครามที่มีป้างใจย่าง เป็นแกนนนำนั้นส่งผลกระทบต่อลาวด้วยเช่นกัน รัฐบาลลาวตระหนักดีและให้ม้งมีเขตการปกครองตนเองได้
แต่อย่างไรก็ตามในกลุ่มของม้งเองก็มีการแตกแยกไม่มีความสามัคี ร่วมมือกันอยู่ในตัวด้วยในช่วงที่ม้งมาอยู่ในลาวมีม้งอยู่สามแซ่ที่พยายามจะปกครองม้งด้วยกันรเองด้วย มีกลุ่ม แซ่เล่า แซ่ลี และแซ่มัว แต่ในที่สุดอำนาจของกลุ่มแซ่มัวได้ตกต่ำลงไป ช่วงแรกนั้นกลุ่มแซ่เล่าและแซ่ลีก็ร่วมมือสามัคคีกันอยู่ เพราะว่าลีฝน (Lis Foom) พ่อของ ตุ้บีลี ได้แต่งงานกับลูกสาวของ เบลียวเยาะ (Npliaj yob Lauj) ชื่อเม ในที่สุด เมได้กินยาฝิ่นตาย ทำให้เกิดการแตกในกลุ่มของแซ่ลีและแซ่เล่าด้วย
เบลียวเยาะ ไม่ได้ร่วมกับป้างใจย่างทำสงครามกับฝรั่งเศส ฝรั่งเศสเลยตั้งให้ปกครองเมืองหนอง-เฮด เพราะเบลียวเยาะเล้าผิดใจกับกลุ่มแซ่ลีทำให้ฝรั่งเศสแบ่งเมืองเป็น สองเมืองต่างกลุ่มต่างปกครองตนเอง แต่ด้วยที่ จ่งตุ้ (Txooj tub) ไม่มีความสามารถในการปกครองชอบเสเพล หลังจากที่ เบลียวเยาะ เสียชีวิตฝรั่งเศสได้ถอดถอน จ่งตุ๊ออกจากตำแหน่ง และให้เมืองให้ลีฝนพ่อของตุ๊บีลีมาปกครองแทน ทำให้อำนาจของกลุ่มแซ่เล้าตกต่ำลงไป ฝายด้า (Faiv ntaj) ที่เป็นน้องชายจ่งตุ๊ รู้สึกโกรธและไม่มีความพอใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่ากลุ่มแซ่ลีจะทำอะไรฝายด้าจะทำในสิ่งตรงกันข้ามเสมอ เป็นศัตรูของกลุ่มแซ่ลีมาตลอด อย่างเช่นปีที่ญี่ปุ่นบุกยึดยาวนั้น ลีฝนพ่อของตุ๊บีลีอยู่กับฝ่ายฝรั่งเศส แต่ฝ่ายด้าร่วมมือกับญี่ปุ่น หลังจากที่ญี่ปุ่นแพ้สงครามทำให้สองตระกูลหยุดเป็นศัตรูกันช่วงระยะเวลาหนึ่ง ลาวให้ความเสมอภาคกับคนบนพื้นที่สูง โดยให้ยกเลิกการเรียกชนกลุ่มน้อย และเรียกลาวสูงแทน
จะอย่างไรก็ตามในกลุ่มม้งเองก็มีความแตกแยกขาดความสมัคคีกันอยู่
หลังจากทีฝรั่งเศสแพ้สงครามยกกำลังออกไป เวียดนามได้ถือเป็นข้ออ้างที่จะเข้าครอบครองลาวแทน โดยให้ฝายด้าเป็นแกนนำในการปกครองม้งแทน อเมริกาได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือคนอพยพหนีสงครามโดยส่งทหารเข้ามาฝึกทหารม้ง เพราะพื้นที่ม้งอาศัยอยู่นั้นเป็นพื้นที่ ที่ต้องยึดคืนจากเวียดนาม โดยอเมริกาแต่ตั้งให้นายพลวางเปาเป็นผู้บัญชาการทหารต่อสู้กับทหารของเวียดนาม เพราะนายพลวางเปาได้สร้างวีรกรรมในช่วงสงครามญี่ปุ่นที่มายึดครองลาวขณะยศร้อยเอก และนายพลวางเปาแม่ทัพภาค 2 ของลาวโดยมีศูนย์บัญชาการอยู่ที่ เมืองล่งแจง ก่อนที่จะมาตั้งที่บัญชาการกองทัพที่เมืองล่งแจงนั้นอยู่ที่เมืองเชียงขวางมาก่อน
ด้วยความที่ทหารของลาวไม่ค่อยพอใจให้กับนายพลวางเปาเท่าไหร่นัก นายพลวางเปาเริ่มแยกกองกำลังของตนออกจากทหารของลาว โดยได้รับความช่วยเหลือจากอเมริกาที่ให้ความช่วยเหลือคนอพยพหนีสงคราม แต่ในคณะรัฐบาลก็ยังมีม้งร่วมบริหารประเทศอยู่ด้วยเช่นกัน นายตี่แช่งลีได้เป็นผู้บัญชาการศาลในครั้งนั้น ในที่สุดอเมริกาได้ถอนกองกำลังจากลาว และให้ความช่วยเหลือคนอพยพจากลาวทำให้พรรคคอมมิวนิสต์ สามารถที่จะยึดนครเวิยนจันทน์ได้ในที่สุด นายพลวางเปามีความลังเลใจที่จะสู้เพียงลำพังและกำลังถูกเพ่งเล็งว่า วางเปาทำสงครามเพื่อตัวเอง ดูเหมือนว่านายพลวางเปาจะคิดอย่างนั้นจริง และในที่สุดนายพลวางเปาได้อพยพพร้อมทหารนายสนิทออกจากลาวมาอยู่ฝั่งไทยและเดินทางต่อไปยังสหรัฐอเมริกาในที่สุด ในครั้งนั้นทำให้ม้งอพยพหนีสงครามออกจากลาวอีกระลอกหนึ่งทำให้ม้งกระจายตัวไปในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย เป็นต้น แต่ม้งที่อาศัยอยู่นั้นก็ยังแบ่งเป็นพรรคเป็นพวกอยู่เหมือนเดิม แต่ส่วนใหญ่การทำสงครามนั้นส่วนใหญ่ม้งจะถูกหลอกให้ทำสงครามฆ่ากันเองเสียมากกว่า